ชีวิตในวัยเด็กของมุระกะมินั้นได้รับอิทธิพลอย่างสูงจากวัฒนธรรมตะวันตก โดยเฉพาะด้านดนตรีและวรรณกรรม เขาเติบโตขึ้นมาด้วยการอ่านวรรณกรรมทุกประเภทของนักเขียนตะวันตก ส่งผลให้ลักษณะงานเขียนของเขามีความแตกต่างจากนักเขียนญี่ปุ่นคนอื่นๆอย่าง ชัดเจน โดยงานเขียนญี่ปุ่นส่วนใหญ่นั้นจะให้ความสำคัญอย่างมากกับความงามของภาษา ทำให้เกิดรูปแบบการเขียนที่เข้มงวดและเย็นชาในบางครั้ง แต่งานเขียนของมุระกะมินั้นกลับมีรูปแบบที่เป็นอิสระและมีความลื่นไหล
มุระกะมิสำเร็จการศึกษาวิชาการละคร ภาควิชาวรรณคดี จากมหาวิทยาลัยวาเซดะใน มหานครโตเกียวซึ่งเป็นที่ที่เขาได้พบกับโยโกะ ภรรยาของเขา หลังจากสำเร็จการศึกษา มุระกะมิได้เปิดบาร์เล็ก ๆ ที่โตเกียว มีชื่อว่า ปีเตอร์ แคท (Peter Cat) โดยเล่นดนตรีแนวแจ๊ส (Jazz) อยู่เป็นเวลา 7 ปี ซึ่งส่งผลในดนตรีได้เข้าไปมีบทบาทสำคัญในงานเขียนของมุระกะมิอยู่สมอ
ไตร ภาคมุสิก
มุระกะมิเริ่มเขียนนิยายเรื่องแรก Hear the Wind Sing ในปี 1979 เมื่อเขามีอายุได้ 29 ปี โดยได้รับแรงบันดาลใจอย่างฉับพลันและไม่คาดฝันมาจากการบรรยากาศในการนั่งชม การแข่งขันเบสบอลรายการหนึ่ง เขาใช้เวลาเขียนนวนิยายเรื่องนี้อยู่สองสามเดือน โดยใช้เวลาว่างหลังจากปิดร้านในการเขียน หลังจากเขียนเสร็จ เขาได้ส่งผลงานเรื่องนี้เข้าประกวดและได้รับรางวัลที่หนึ่ง ความสำเร็จตั้งแต่เรื่องแรกนี่เอง ที่เป็นแรงผลักดันให้เขาเขียนหนังสือเรื่อยมา โดยในปีถัดมา เขาได้ตีพิมพ์นิยายชื่อ Pinball, 1973 และตีพิมพ์ A Wild Sheep Chase ในปี 1982 ซึ่งทั้งหมดก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม นอกจากนี้ หนังสือทั้งสามเรื่องยังได้รวมตัวกันขึ้นเป็นไตรภาคที่มีชื่อว่า "Trilogy of the Rat" โดยมีตัวละครเชื่อมโยงทั้งสามเรื่องเข้าด้วยกัน อย่างไรก็ตาม ต้นฉบับที่แปลเป็นภาษาอังกฤษของนิยายสองเรื่องแรกของมุระกะมินั้นได้ขาดตลาด ไปนานแล้ว เนื่องจากเขาเห็นว่ามันไม่ดีพอที่จะได้รับการพิมพ์เพิ่มนั่นเอง
การ เดินทางไปสู่การเป็นนักเขียนผู้โด่งดัง
ในปี 1985 มุระกะมิตีพิมพ์ผลงานชื่อ Hard-Boiled Wonderland and the End of the World ซึ่งเริ่มแสดงออกถึงองค์ประกอบที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวซึ่งปรากฏแต่ในงาน เขียนของเขา อันได้แก่เรื่องราวสุดโต่งเหนือจินตนาการนั่นเอง
มุระกะมิเริ่มมาโด่งดังในระดับชาติในปี 1987 เมื่อเขาตีพิมพ์กับหนังสือเรื่องใหม่ที่ชื่อ Norwegian Wood ซึ่งมียอดจำหน่ายกว่าล้านเล่มในญี่ปุ่น ทำให้มุระกะมิกลายเป็นหนึ่งในนักเขียนที่มีชื่อเสียงที่สุดคนหนึ่งในประเทศ แต่นั่นกลับเป็นเหตุผลให้เขาเดินทางออกนอกประเทศ
ในปี 1986 มุระกะมิตัดสินใจเดินทางท่องเที่ยวไปทั่วยุโรป ก่อนที่จะไปใช้ชีวิตอยู่ที่ สหรัฐอเมริกา ระหว่างที่มุระกะมิใช้ชีวิตเป็นอาจารย์อยู่ที่มหาวิทยาลัยในอเมริกานั้น เขาก็มีผลงานออกมาอีกสองเรื่อง คือ Dance, Dance, Dance และ South of the Border, West of the Sun
ในปี 1994 มุระกะมิได้ส่งผลงานชื่อ The Wind-Up Bird Chronicle ออกสู่สายตานักอ่าน และนวนิยายเรื่องนี้ก็ได้รับการยกย่องว่าเป็นนวนิยายเรื่องที่ดีที่สุดของ เขาอีกด้วย ระหว่างนี้เองที่ญี่ปุ่นต้องเผชิญกับโศกนาฎกรรมแผ่นดินไหวที่โกเบ และเหตุการณ์ก่อการร้ายโดยใช้แก๊สโจมตีรถไฟใต้ดินของสาวกนิกายโอม ชินริเคียว ซึ่งหลังจากที่เขากลับมาที่ญี่ปุ่น เขาก็ได้เขียนสารคดีเกี่ยวกับสองเหตุการณ์ดังกล่าว ภายใต้ชื่อ Underground และ After the Quake
นอกจากนี้เรื่องสั้นที่เขาเขียนระหว่างปี 1983 ถึง 1990 นั้นได้รับการรวมเล่มเป็นหนังสือชื่อ The Elephant Vanishes และมุระกะมิยังได้ทำการแปลผลงานของนักเขียนมากมายเป็นภาษาญี่ปุ่นอีกด้วย
ผลงานล่าสุด
ผลงานนวนิยายขนาดสั้นชื่อ Sputnik Sweetheart ได้ถูกตีพิมพ์ในปี 1999 และผลงาน Kafka on the Shore ถูกตีพิมพ์ในปี 2002 และถูกแปลเป็นภาษาอังกฤษในปี 2005 โดยผลงานแปลเป็นภาษาอังกฤษจากผลงานเรื่องล่าสุดของเขาที่ชื่อ After Dark ก็ออกวางจำหน่ายในปี 2007 นอกจากนี้เขายังมีผลงานรวมเรื่องสั้นที่ผสมผสานระหว่างผลงานเรื่องสั้นที่ เขาเขียนในช่วงปี 80 กับผลงานเรื่องสั้นล่าสุดตีพิมพ์ภายใต้ชื่อ Blind, Willow, Sleeping Woman ก็ได้ออกวางจำหน่ายในเดือนสิงหาคม 2006 มูราคามิได้ตีพิมพ์ What I talk about when I talk about running ซึ่งเป็นความเรียงกึ่งบันทึก เมือปี 2007 โดยได้แปลเป็นภาษาอังกฤษในปี 2008 และเป็นภาษาไทยในปี 2009 ในชื่อ "เกร็ดความคิดบนก้าววิ่ง"นวนิยาย เรื่องใหม่จาก มูราคามิ: 1Q84
ฮะรุกิ มูราคามิ ได้ออกผลงานนวนิยายเรื่องยาวอีกครั้งในปี 2009 ชื่อ 1Q84 โดยมีแผนที่จะออกทั้งหมด 3 เล่ม เล่ม 1 และเล่ม 2 ออกวางจำหน่ายฉบับภาษาญี่ปุ่นเมื่อเดือนพฤษภาคม 2009 ส่วนเล่มที่ 3 ออกจำหน่ายในเดือนเมษายน 2010 ส่วนฉบับแปลภาษาอังกฤษของ 1Q84 เล่ม 1-2 นั้นมีกำหนดการวางจำหน่ายในเดือนกันยายน 2011 โดยสำนักพิมพ์แรนดอมเฮาส์ ได้กำหนดผู้แปลไว้เรียบร้อยแล้ว โดย Jay Rubin จะแปลเล่ม 1 และ 2 ส่วนเล่ม 3 นั้นจะเป็นหน้าที่ของ Philip Gabriel สำหรับฉบับแปลภาษาไทย สำนักพิมพ์กำมะหยี่ได้ลิขสิทธิ์การแปลเล่ม 1-2 และ 3 เรียบร้อยแล้ว โดยจะเป็นการแปลจากต้นฉบับภาษาญี่ปุ่นข้อวิพากษ์วิจารณ์
ผลงานของมุระกะมิมักถูกวิจารณ์ว่าเป็น วรรณกรรมป๊อปที่มี อารมณ์ขันและเรื่องราวเหนือธรรมชาติ ในขณะเดียวกันก็สะท้อนความรู้สึกแปลกแยก โดดเดี่ยว และการโหยหาความรักในทางที่สามารถเข้าถึงผู้อ่านในอเมริกา ยุโรป และเอเชียตะวันออกได้ งานของมุระกะมิมักกล่าวถึงการที่ญี่ปุ่นหมกมุ่นในลัทธิทุนนิยม ความว่างเปล่าทางจิตใจของผู้คนรุ่นเดียวกับเขา และผลกระทบด้านลบทางจิตใจของญี่ปุ่นที่ทุ่มเทให้กับงาน งานของเขาวิพากษ์วิจารณ์ความตกต่ำของคุณค่าความเป็นมนุษย์ และการขาดการติดต่อระหว่างผู้คนในสังคมทุนนิยมของญี่ปุ่นผลงาน
นวนิยาย
ปี | ชื่อญี่ปุ่น | ชื่ออังกฤษ | ชื่อไทย |
1979 | 風の歌を聴け Kaze no uta o kike | Hear the Wind Sing | สดับลมขับขาน |
1980 | 1973年のピンボール 1973-nen no pinbōru | Pinball, 1973 | พินบอล, 1973 |
1982 | 羊をめぐる冒険 Hitsuji o meguru bōken | A Wild Sheep Chase | แกะรอยแกะดาว |
1985 | 世界の終りとハードボイルド・ワンダーランド Sekai no owari to hādoboirudo wandārando | Hard-Boiled Wonderland and the End of the World | แดนฝันปลายขอบฟ้า |
1987 | ノルウェイの森 Noruwei no mori | Norwegian Wood | ด้วยรัก ความตาย และหัวใจสลาย |
1988 | ダンス・ダンス・ダンス Dansu dansu dansu | Dance Dance Dance | เริงระบำแดนสนธยา |
1992 | 国境の南、太陽の西 Kokkyō no minami, taiyō no nishi | South of the Border, West of the Sun | การ ปรากฏตัวของหญิงสาวในคืนฝนตก |
1992-1995 | ねじまき鳥クロニクル Nejimaki-dori kuronikuru | The Wind-Up Bird Chronicle | บันทึกนกไขลาน |
1999 | スプートニクの恋人 Supūtoniku no koibito | Sputnik Sweetheart | รักเร้นในโลกคู่ ขนาน |
2002 | 海辺のカフカ Umibe no Kafuka | Kafka on the Shore | คาฟกา วิฬาร์ นาคาตะ |
2004 | アフターダーク Afutā Dāku | After Dark | ราตรีมหัศจรรย์ |
2009-2010 | 1Q84 Ichi-kyū-hachi-yon | 1Q84 | หนึ่งคิวแปดสี่ |
สารคดี
ปี | ชื่อญี่ปุ่น | ชื่ออังกฤษ | ชื่อไทย |
1997 | アンダーグラウンド Andāguraundo | Underground (1) | ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย |
1998 | 約束された場所で Yakusoku sareta basho de | Underground (2) | ยังไม่มีการแปลเป็นภาษาไทย |
2007 | 走ることについて語るときに僕の語ること Hashiru koto ni tsuite kataru toki ni boku no kataru koto | What I talk about When I talk about Running | เกร็ดความคิด บนก้าววิ่ง |
รวมเรื่องสั้น
ปี | ชื่อญี่ปุ่น | ชื่ออังกฤษ | ชื่อไทย |
1983 | 中国行きのスロウ・ボート Chugoku yuki no Suroh Bohto | A Slow Boat To China | เรือเชื่องช้าสู่เมืองจีน |
1984 | 螢・納屋を焼く・その他の短編 Hotaru, Naya wo yaku, sonota no Tampen | Firefly, Barn Burning and Other Stories | เส้นแสงที่สูญหาย เราร้องไห้เงียบงัน |
1986 | パン屋再襲撃 Pan-ya Saishuhgeki | The Second Bakery Attack | คำสาปร้านเบเกอรี่ |
1996 | レキシントンの幽霊 Rekishinton no Yuhrei | Lexington Ghosts | ปีศาจแห่งเล็กซิงตัน |
2000 | 神の子どもたちはみな踊る Kami no kodomo-tachi wa mina odoru | After the Quake | อาฟเตอร์เดอะเควก |
หมายเหตุ: หนังสือรวมเรื่องสั้นเหล่านี้เป็นรายการเฉพาะเล่มที่ได้รับการแปลภาษาไทย แล้วเท่านั้น งานเรื่องสั้นของมุระกะมิยังมีอีกมากมายที่ยังไม่ได้แปลเป็นภาษาไทย
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น