การดนตรีไทยสมัยสุโขทัยมีปรากฎหลักฐานสำคัญใน "หลัก ศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหง หลักที่ 1" และหนังสือวรรณคดีเรื่อง "ไตรภูมิพระร่วง" พระราชนิพนธ์ในพระมหาธรรมราชาลิไท โดยข้อความสำคัญที่เกี่ยวกับดนตรีไทยจากหลักฐานทั้งสองอย่างได้กล่าวถึง เครื่องดนตรีไทยและการ
บรรเลงเป็นวงดนตรีไทยไว้อย่างชัดเจนทั้ง "เสียงพาทย์" กับ "เสียงพิณ" ซึ่งหมายถึง วงปี่พาทย์ และเครื่องดีดเครื่องสีที่มีพิณเป็นหลัก
ดังนั้น จากหลักฐานชิ้นสำคัญดังที่กล่าวมา ทำให้ทราบว่าเครื่องดนตรีที่ใช้บรรเลงเป็นวงตามแบบแผนในสมัยสุโขทัยนั้น มีรายละเอียดดังต่อไปนี้
วงแตร สังข์ เป็นเครื่องประโคมประกอบพระเกียรติยศของพระมหากษัตริย์ในพระราชพิธีสำคัญ ต่างๆ ประกอบไปด้วย สังข์ แตรยาว หรือเรียกว่า แตรฝรั่ง แตรงอน ปี่ไฉน กลองชนะ บัณเฑาว์และมโหรทึก
วงปี่พาทย์ คือ วงดนตรีที่ประกอบไปด้วยเครื่องตีและเครื่องเป่าและถือว่าเป็นวงดนตรีสำคัญ ของการดนตรีไทย โดยวงปี่พาทย์ในสมัยสุโขทัย เรียกว่า "วงปี่พาทย์เครื่องห้า" ได้รับอิทธิพลมาจากวงดนตรีที่มีชื่อว่า "ปัญจดุริยางค์" ของอินเดีย ซึ่งประกอบด้วยเครื่องตีและเครื่องเป่าที่ใช้ในการบรรเลง 5 อย่าง ได้แก่
- เครื่องที่มีรูกลวงภายในเป็นเครื่องเป่า
- เครื่องขึ้นหนังหน้าเดียว
- เครื่องขึ้นหนังสองหน้า
- เครื่องหุ้มหนังรอบตัว
- เครื่องที่เป็นแท่งทึบกระทบกันเป็นเสียง
โดยเครื่องดนตรีที่ประกอบในวงปี่พาทย์เครื่องห้าของไทยนั้น เป็นการนำเอาเครื่องดนตรีที่มีแต่เดิมแล้วมาผสมกันเพื่อให้ได้ลักษณะแบบแผน เช่นเดียวกับปัญจดุริยางค์ของอินเดียนั่นคือ ปี่ใน ฆ้องวง ตะโพน กลองทัด ฉิ่ง ซึ่งทั้งวงแตรสังข์และวงปี่พาทย์เครื่องห้าล้วนแล้วแต่อยู่ใน "เสียงพาทย์" ดังปรากฎในหลักศิลาจารึกพ่อขุนรามคำแหงและไตรภูมิพระร่วง
ส่วน "เสียงพิณ" ที่หมายถึงเครื่องดนตรีประเภทสายและสีในสมัยสุโขทัย ก็คือ
พิณ เป็นเครื่องดนตรีที่มีสายและดีดให้เป็นเสียง ซึ่งพิณในสมัยสุโขทัยมีรูปร่างเหมือนกระจับปี่ในปัจจุบัน
นอกจากพิณที่มีลักษณะดังกล่าวแล้ว พิณน้ำเต้า (จากเขมร) และพิณเพี๊ยะ (ส่วนมากนิยมเล่นทางภาคเหนือ) ก็นับเป็นเครื่องดนตรีประเภทสายที่มีอยู่แล้วในสมัยสุโขทัย
ซอ ในสมัยสุโขทัยจะมีทั้งซอสามสาย ซอด้วงและซออู้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น